เหรียญจตุพร บารมีแผ่ไพศาล หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
จ. นครราชสีมา จัดสร้างปี พ.ศ.2537 ปลุกเสก 3 วาระ
ปลุกเสกวัดบ้านไร่ วัดแจ้งนอก และที่วัดกองพระทราย อ. เมือง จ.
นครราชสีมา เป็นอีกเหรียญที่น่าจับตามอง สภาพสวยสมบูรณ์
มีจารหน้าหลังเต็มสูตร ผิวเนียนเดิม
และเนื่องจากระยะนี้วัตถุมงคลของหลวงพ่อคูณมีปลอมแล้วแทบทุกรุ่น
จึงมาพร้อมบัตรรับรับรองพระเครื่อง เพื่อยืนยันความแท้
และไม่มีแต่งซ่อมใดๆ ท่ามกลางเหรียญเก๊เกลื่อนสนาม
ในราคาเบาหวิวครับ
หลวงพ่อคูณอุปสมบท เมื่ออายุได้ 21 ปี ณ พัทธสีมาวัดถนนหักใหญ่
ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๔๘๗
(หนังสือบางแห่งว่า ปี ๒๔๘๖) ตรงกับวันศุกร์ เดือน 6 ปีวอก
โดยพระครูวิจารย์ดีกิจ อดีตเจ้าคณะอำเภอด่านขุนทด เป็นพระอุปัชฌาย์
พระกรรมวาจาจารย์ คือพระอาจารย์สุข วัดโคกรักษ์
หลวงพ่อคูณได้รับฉายาว่า ปริสุทโธ
หลังจากที่หลวงพ่อคูณอุปสมบทเป็นพระภิกษุเรียบร้อยแล้ว
ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อแดง วัดบ้านหนองโพธิ์ ต.สำนักตะคร้อ
อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
(บางตำรากล่าวว่าเมื่อบรรพชาแล้วได้เล่าเรียนกับหลวงพ่อคง
ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดถนนหักใหญ่ก่อน แล้ว
หลวงพ่อคงจึงนำไปฝากกับหลวงพ่อแดง) หลวงพ่อแดง
เป็นพระนักปฏิบัติทางด้านคันถธุระ และวิปัสสนาธุระ อย่างเคร่งครัด
และทั้งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เรืองวิทยาคมเป็นอย่างยิ่ง
จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้คนและลูกศิษย์เป็นอย่างมาก
บุคคลทั่วไปหากมิได้สัมผัสตัวตนที่แท้จริงของหลวงพ่อคูณ
มักจะมีความเข้าใจว่า หลวงพ่อคูณเป็นพระที่แกร่งกล้าอาคม
แต่หากได้พบและได้สนทนาธรรม จะทราบทันทีว่า ท่านคือ
"ปราชญ์แห่งที่ราบสูง" หลวงพ่อคูณได้สนทนาธรรมกับหลาย ๆ คน
ต่างกรรมต่างวาระแสดงให้เห็นความเป็นปราชญ์ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ทีท่าตรงไปตรงมาพูดจามึงกู
แต่ภายในจิตวิญญาณของหลวงพ่อคูณท่านเป็นพระที่เป็นพระจริง ๆ
คือมีจิตเมตตาเป็นที่ตั้ง
แม้ในยามที่วัดบ้านไร่มีปัญหาหรือมีความขัดแย้งเกิดขึ้นระหว่างลูกศิษย์
หลวงพ่อคูณท่านได้ตัดสินใจเดินจากวัดบ้านไร่ไปอย่างเงียบ ๆ
พร้อมทั้งปรัญชาที่ว่า "เป็นธรรมดา เปรียบเสมือนต้นไม้หากมีลูกไม้
ย่อมจะเป็นที่จิกกินของสัตว์หรือนกแม้กระทั่งคน
หากแม้นเมื่อหมดลูกหมดผล ก็หมดการแก่งแย่ง
แต่อีกไม่นานต้นไม้นั้นก็จะออกลูกออกผลมาให้ เป็นเช่นนี้เรื่อยไป"
หลวงพ่อคูณ สร้างวัตถุมงคลมาตั้งแต่บวชแล้ว ๗ พรรษา
โดยเริ่มทำวัตถุมงคล ซึ่งเป็นตะกรุดโทน ตะกรุดทองคำ
เพื่อฝังที่ใต้ท้องแขน ณ วัดบ้านไร่ ราว พ.ศ.๒๔๙๓ "ใครขอ กูก็ให้
ไม่เลือกยากดีมีจน" เป็นคำกล่าวของท่าน
เนื่องจากวัตถุมงคลของหลวงพ่อได้ชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ
เมื่อมีผู้ถามว่า
หลวงพ่อแจกให้กับคนไม่ดีเป็นโจรผู้ร้ายอย่างนี้หลวงพ่อไม่บาปหรือ"กูจะไปรู้หรือว่ามันเป็นใคร
ถ้ามันเป็นโจร เมื่อมันได้รับประโยชน์จากของที่กูแจก
มันคงคิดได้ว่า เป็นเพราะพระศาสนา
มันจะได้เข้ามาสนใจปฏิบัติธรรม...." "ถ้ามีใจอยู่กับ "พุทโธ"
ให้เป็นกลางๆ ไม่สอดส่ายไปไหน นั่นหมายความว่า ใจเป็นสมาธิ
จะช่วยปกป้องคุ้มครองเราได้ดียิ่ง... ยิ่งกว่ามีวัตถุมงคลใดๆ
ในโลก"
หลวงพ่อคูณได้จัดสร้างโรงพยาบาลถึง 3 หลัง ตลอดจนโรงเรียน และอื่นๆ
อีกมากมาย นอกจากนี้
ยังได้บริจาคเงินทองเพื่อช่วยเหลือสาธารณะสุขต่างๆ ทุกๆวัน
แต่ละเดือนเป็นจำนวนหลายแสนบาท
วันนี้แม้ท่านจะไม่อยู่แล้ว
แต่คำสอนของท่านยังคงก้องอยู่ในหัวใจของคนไทยตลอดไป
www.new-amulet.com
แพ็คกล่องกระดาษไดคัท พร้อมวัสดุกันกระแทกอย่างดี ส่ง EMS
พร้อมประกันภัยสูญหาย ฟรี ทุกรายการครับ |